ข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันหูจากอันตรายต่างๆ การให้ความสำคัญกับหู การดูแลรักษาหูอย่างไรให้ถูกต้อง

อาจจะเคยได้ยินกันบ่อยครั้ง ที่ว่าเมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถทางการได้ยินมีแนวโน้มที่จะลดลง เนื่องจากสุขภาพหูที่เสื่อมถอย แต่รู้หรือไม่ว่า สุขภาพหูที่แย่ลงนั้น เป็นผลพวงมาจากการดูแลรักษาหูอย่างไม่ถูกต้อง รวมถึงการใช้งานหูอย่างเสี่ยงอันตรายและไม่ถูกวิธี หากยังไม่อยากให้สุขภาพหูแย่ลงก่อนวัยอันควร นี่คือข้อปฏิบัติและวิธีการดูแลรักษาหูอย่างถูกวิธี

4 โรคเกี่ยวกับหูที่พบบ่อย

จากการเก็บข้อมูลของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พบว่าผู้ป่วยที่มาพบแพทย์ด้วยปัญหาสุขภาพหู มักจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ ผู้ที่มีปัญหาทางการได้ยินลดลง และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว โดยจะแบ่งออกเป็น 4 โรคหลักๆ ด้วยกันคือ

  1. น้ำในหูไม่เท่ากัน
    ส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ โดยร่างกายสร้างน้ำในชั้นหูมากเกินไป หรือระบายออกได้น้อยลง เกิดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุน และมีระดับการได้ยินลดลง
  2. ตะกอนหินปูนในหูหลุด
    เกิดจากผลึกหินปูนในหูชั้นใน ที่มีหน้าที่รักษาการทรงตัวของร่างกาย เคลื่อนหลุดออกจากตำแหน่งเดิม ทำให้เวลาเคลื่อนไหวร่างกาย หินปูนที่หลุดออกมาจะกลิ้งไปตามการขยับศีรษะ ทำให้มีอาการเวียนหัวหรือบ้านหมุน
  3. ประสาทหูดับฉับพลัน
    มักจะเกิดขึ้นทันทีภายใน 72 ชั่วโมง โดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่เป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากการติดเชื้อไวรัส การอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหูชั้นใน การบวมน้ำของหูชั้นใน หรือการมีรูรั่วของท่อหูชั้นใน รวมถึงกรณีการเกิดเนื้องอกก็เช่นกัน
  4. การสูญเสียการได้ยินแบบประสาทหูเสื่อม
    ทำให้ความสามารถในการได้ยินลดลง เนื่องจากเซลล์ประสาทหูเสื่อมสภาพ โดยการฟังเสียงที่ดังมากเกินไปก็เป็นหนึ่งในสาเหตุเช่นกัน

เลี่ยง 5 พฤติกรรมนี้ เพื่อป้องกันอันตรายต่อหู

หากไม่อยากให้สุขภาพหูแย่ลง ควรเลี่ยงสิ่งอันตราย ที่จะทำลายการทำงานของหูดังนี้

  1. หลีกเลี่ยงแหล่งกำเนิดเสียงหรือสิ่งแวดล้อมที่มีเสียงดังเกินมาตรฐานตั้งแต่ 80 เดซิเบลขึ้นไป โดยหากมีความจำเป็นต้องทำงานในที่เสียงดังเป็นเวลานาน อาจจะทำให้ประสาทหูถูกทำลายได้
  2. หลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุหรือการกระแทกแรงๆ ที่กกหู เพราะอาจจะทำให้แก้วหูฉีกขาด หรือเลือดคั่งในหูชั้นกลาง ทำให้ความสามารถในการได้ยินลดลง
  3. ไม่ควรสั่งน้ำมูกแรกงๆ ขณะที่เป็นหวัด เนื่องจากเชื้อโรคจะถูกดันเข้าไปที่ตำแหน่งท่อยูสเตเชียน ที่เชื่อมระหว่างหูชั้นกลางและหลังโพรงจมูก ทำให้เกิดการติดเชื้อที่หูชั้นกลาง และอาจลุกลามเป็นหูน้ำหนวกได้
  4. หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดหูด้วยการแคะหูบ่อยเกินไป เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้ว ขี้หูไม่ว่าแห้งหรือเปียก จะมีหน้าที่ในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าหู และยังทำลายเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย
  5. เลี่ยงอาหารรสเค็ม เพราะอาหารรสเค็มจัด จะทำให้ท่อน้ำในหูชั้นในโป่งและแตก เกิดภาวะไม่เท่ากันของเกลือแร่ หรืออาการน้ำในหูไม่เท่ากัน ส่งผลให้ประสาทหูเสื่อมเร็วได้

ดูแลรักษาหูอย่างไรให้ถูกต้อง

เมื่อรู้สาเหตุ รวมถึงพฤติกรรมที่ควรเลี่ยงกันไปแล้ว การให้ความสำคัญกับวิธีดูแลรักษาหูอย่างถูกวิธีก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นกัน โดยสามารถปฏิบัติได้ดั้งนี้

  • ทำความสะอาดหูโดยการใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำบิดหมาด เช็ดทำความสะอาดบริเวณใบหู และรูหูเท่าที่นิ้วจะเข้าไปได้ หลีกเลี่ยงการใช้คัตตอนบัดแหย่หรือไชเข้าไปในรูหู
  • ถ้าหากมีแมลงเข้าไปในหู ห้ามแคะออกเพราะจะทำให้เข้าไปลึกกว่าเดิม ควรใช้น้ำสะอาดหรือน้ำมันมะกอก หยอดเข้าไปในรูหูทิ้งไว้ แล้วเอียงเพื่อไหลออกมา หรือควรพบแพทย์เพื่อดำเนินการ
  • ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันหู หรือที่อุดหู เพื่อลดระดับความดังของเสียงเมื่อต้องเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีความดังเสียงเกิน 80-90 เดซิเบลขึ้นไป เป็นระยะเวลานานๆ
  • ในกลุ่มผู้ป่วยภูมิแพ้ มีแนวโน้มที่หูชั้นกลางอักเสบจากการติดเชื้อแทรกซ้อน จึงควรหลีกเลี่ยงอาการแพ้ และรับประทานยาเพื่อบรรเทา
  • หากทำกิจกรรมดำน้ำบ่อยๆ ควรฝึกการปรับความดันระหว่างการดำน้ำให้ดี เพราะแรงดันใต้น้ำ จะทำให้เกิดการบีบอัดศีรษะและอวัยวะในช่องหู อาจปวดหูจากความดันที่ไม่สมดุลได้

เพียงแค่หลีกเลี่ยงและดูแลรักษา หูของเราก็จะมีสุขภาพที่ดี และใช้งานได้ยาวนานโดยไม่เสื่อมสภาพนั่นเอง

Facebook
Twitter
Email
การแพ้ที่อุดหูเกิดจากวัสดุที่กระตุ้นอาการแพ้ ความสกปรก ความชื้น หรือแรงกดมากเกินไป ข้อสังเกตเช่น คัน แสบ บวม เมื่อมีอาการควรหยุดใช้ทันที หรือเลือกวัสดุที่ปลอดภัย และพักการใช้งานสักระยะเพื่อให้หูฟื้นตัว
อ่าน: 76 ครั้ง
การใช้ที่อุดหูเป็นประจำอาจไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพหู หากมีการดูแลรักษาและใช้งานอย่างถูกต้อง ที่อุดหูมีประโยชน์ในการช่วยป้องกันเสียงรบกวนและช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้นในบางกรณี อย่างไรก็ตาม ควรใช้งานในขอบเขตที่เหมาะสม
อ่าน: 259 ครั้ง
ค่า SNR คือค่าที่บอกว่าที่อุดหูลดเสียงได้กี่เดซิเบล ช่วยให้เลือกใช้งานให้เหมาะกับเสียงรบกวนแต่ละแบบได้ง่ายขึ้น ถ้ารู้วิธีคำนวณและเลือกค่า SNR ให้พอดี จะช่วยป้องกันหูได้ดี ทำให้ใช้ที่อุดหูได้ปลอดภัยและสบายยิ่งขึ้น
อ่าน: 67 ครั้ง

ที่อุดหู Pocket รุ่น Slim Soft ขนาดเล็กพิเศษใส่ง่าย คืนตัวช้า มีความนุ่มสูงสุด ที่อุดหูนอน ออกแบบเพื่อสรีระคนตัวเล็ก

  • ป้องกันเสียงรบกวนได้ 30 dB (SNR)
  • ขนาด 23 x 12 มิลลิเมตร
  • รูปทรงมาตรฐาน สำหรับคนตัวเล็ก
ราคา
Pocket LINE QR Code
(มี @ นำหน้าด้วยนะคะ)