ที่อุดหูแบบโฟมเป็นอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีราคาไม่แพง ใช้งานง่าย และสามารถลดระดับเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ที่อุดหูแบบโฟมจะมีความสะดวกในการใช้งาน แต่การรักษาอายุการใช้งานและการเปลี่ยนที่อุดหูอย่างถูกต้องมีความสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพของการป้องกันเสียงและป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพหู
อายุการใช้งานของที่อุดหูแบบโฟม
ที่อุดหูแบบโฟมส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานแบบใช้(สกปรก)แล้วทิ้ง เพราะหลังจากการใช้งานแต่ละครั้ง ที่อุดหูจะสัมผัสกับเหงื่อ ความชื้น และสิ่งสกปรกในช่องหู ทำให้วัสดุโฟมเริ่มเสื่อมสภาพและไม่สามารถคืนรูปได้เต็มที่เมื่อถูกบีบหรือสวมใส่หลายๆ ครั้ง การเสื่อมของโฟมไม่เพียงแต่ลดประสิทธิภาพในการป้องกันเสียง แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงในการสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียในหู
สัญญาณที่บ่งบอกว่าควรเปลี่ยนที่อุดหูแบบโฟมใหม่
- โฟมไม่สามารถคืนรูปได้เต็มที่ ที่อุดหูแบบโฟมที่ดีควรสามารถบีบและคืนรูปได้เต็มที่หลังจากสวมใส่ หากพบว่าโฟมเริ่มเสื่อมหรือคืนรูปได้ไม่ดี ควรพิจารณาเปลี่ยนใหม่ เพราะการที่โฟมไม่คืนรูปจะทำให้ที่อุดหูไม่สามารถปิดกั้นเสียงได้อย่างสมบูรณ์
- เกิดรอยฉีกขาดหรือแตก หากพบว่าที่อุดหูมีรอยฉีกขาดหรือแตก ควรเปลี่ยนใหม่ทันที เนื่องจากรอยฉีกขาดจะทำให้ที่อุดหูไม่สามารถป้องกันเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจทำให้เศษโฟมตกค้างอยู่ในช่องหู
- เกิดคราบสกปรกหรือการสะสมของเชื้อโรค ที่อุดหูแบบโฟมที่ใช้แล้วอาจสะสมสิ่งสกปรกและเชื้อโรคจากช่องหูและสิ่งแวดล้อม การใช้ที่อุดหูที่ไม่สะอาดอาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อในช่องหู ดังนั้นหากที่อุดหูมีคราบสกปรกหรือใช้แล้วหลายครั้ง ควรเปลี่ยนใหม่เพื่อความปลอดภัย
- เริ่มเกิดการระคายเคือง หากพบว่ามีอาการคันหรือระคายเคืองในช่องหูหลังจากใช้ที่อุดหู ควรพิจารณาว่าที่อุดหูอาจเกิดการสะสมของแบคทีเรียหรือสารที่ทำให้ระคายเคือง ควรหยุดใช้งานและเปลี่ยนใหม่ทันที
- ประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงลดลง เมื่อพบว่าที่อุดหูไม่สามารถลดเสียงได้ดีเหมือนเดิม ควรพิจารณาเปลี่ยนใหม่ เนื่องจากอาจเกิดจากการเสื่อมของวัสดุที่ไม่สามารถป้องกันเสียงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
วิธีดูแลรักษาที่อุดหูแบบโฟม

แม้ว่าที่อุดหูแบบโฟมจะเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาให้ใช้แล้วทิ้ง(ล้างทำความสะอาดไม่ได้) แต่การดูแลรักษาและการใช้งานอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ในบางกรณี ดังนี้ :
- ล้างมือก่อนการสวมใส่ การล้างมือก่อนสวมใส่จะช่วยลดการปนเปื้อนของเชื้อโรคและสิ่งสกปรกเข้าสู่ช่องหู ทำให้ที่อุดหูสะอาดขึ้นและลดโอกาสในการติดเชื้อ
- เก็บรักษาในที่สะอาด ควรเก็บที่อุดหูในที่ที่สะอาดและห่างไกลจากสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่นและความชื้น ที่อุดหูที่ไม่ถูกเก็บในที่ที่เหมาะสมอาจเกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ง่าย
- หลีกเลี่ยงการใช้ซ้ำมากเกินไป ที่อุดหูแบบโฟมไม่ควรใช้งานซ้ำหลายครั้งมากจนเกินไป เพราะวัสดุอาจเริ่มเสื่อมสภาพและสะสมเชื้อโรคมากขึ้นทุกครั้งที่ใช้งาน การใช้ซ้ำมากเกินไปอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องหูได้
- หลีกเลี่ยงการล้างน้ำ ที่อุดหูแบบโฟมไม่ควรล้างน้ำหรือทำความสะอาดด้วยของเหลว เนื่องจากโฟมอาจดูดซับน้ำและสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้ที่อุดหูไม่สามารถคืนรูปและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
วิธีเลือกที่อุดหูที่เหมาะสมเพื่อการป้องกันเสียงที่ดีที่สุด
- เลือกที่อุดหูที่มีค่า NRR (Noise Reduction Rating) หรือ SNR (Single Number Rating) : ที่เหมาะสมกับระดับเสียงที่ต้องการป้องกัน สำหรับเสียงในระดับที่ดังมาก ควรเลือกที่อุดหูที่มีค่า NRR หรือ SNR สูงกว่า 30 เดซิเบล
- เลือกขนาดและรูปทรงของที่อุดหูที่พอดีกับช่องหู : เพื่อให้ที่อุดหูสามารถป้องกันเสียงได้เต็มที่และไม่หลุดออกระหว่างการใช้งาน
- ควรเลือกที่อุดหูจากผู้ผลิตที่มีมาตรฐานและได้รับการรับรองด้านความปลอดภัย : เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันเสียง
การใช้งานที่อุดหูแบบโฟมอย่างเหมาะสมและการเปลี่ยนใหม่เมื่อถึงเวลา จะช่วยให้การป้องกันเสียงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานที่อุดหูแบบโฟมซ้ำหลายครั้ง และควรเปลี่ยนใหม่เมื่อที่อุดหูเริ่มเสื่อมสภาพ
 
								 
							 
													 
				 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
								 
													 
								